เมื่อศึกษาดูถึงอารยธรรมโบราณของจีน พบว่าประชาชนตั้งแต่วัยเด็กจะให้ความสำคัญในการศึกษา เล่าเรียนตำรากาพย์กลอน บำเพ็ญคุณธรรมจรรยา มีอุดมการณ์ความมุ่งมั่นที่จะเป็นอริยปราชญ์ หรือตั้งใจที่จะใช้ความสามารถแบกรับหน้าที่สร้างความผาสุกแก่มวลชน โดยให้ความสำคัญต่อนักปราชญ์บัณฑิต และการเกษตรเป็นเรื่องหลัก ให้ความสำคัญต่อเรื่องการงานทั่วไปและการพาณิชย์เป็นลำดับรอง ด้วยเหตุนี้สังคมประเทศชาติจึงสงบร่มเย็นเห็นความสำคัญของหลักเมตตาธรรม มโนธรรม เบาบางเรื่องผลประโยชน์ไปโดยปริยาย ...
    ทว่าเมื่อมองดูยุคปัจจุบันนี้ เป็นสังคมที่เน้นหนักไปในด้านความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ให้ความสำคัญต่อเรื่องการพาณิชย์และอุตสาหรกรรมเป็นหลัก แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อนักปราชญ์บัณฑิตและการเกษตร จึงเห็นผลประโยชน์เป็นเรื่องสำคัญ มองข้ามหลักเมตตาธรรมและมโนธรรม จนทำให้ครอบครัวไม่สมานฉันท์ สังคมไม่สงบสุข หลักโครงสร้างสังคมนั้นเกิดจาก ผู้มีวัยวุฒิ วัยกลางคน วัยรุ่น และวัยเด็ก โบราณกล่าวว่า “วัยเด็กสามขวบ สามารถกำหนดชะตาถึงอายุแปดสิบ” “เรียนรู้เรื่องดีสามปี แต่ฝึกฝนสิ่งไม่ดีเพียงสามวัน” หากในช่วงวัยรุ่นจิตใจเอนเอียงไม่เที่ยงตรงแล้ว แม้นใช้เวลาสามสิบปีหรือหกสิบปีก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ จะเห็นได้ว่าการอบรมบ่มเพาะในช่วงวัยเด็กนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง การศึกษาเรียนรู้ในอดีตนั้นคือการศึกษาเรียนรู้ใน จตุปกรณ์และคัมภีร์ทั้งห้า บำเพ็ญจิตบ่มเพาะธรรมญาณ เปล่งจิตดีงามเดิมแท้ออกมา
    ฉะนั้นมูลนิธิแสงธรรมส่องหล้า เพื่อเป็นการสนองต่อเหตุปัจจัยในยุคปัจจุบัน จึงหวังว่าการผลักดันด้านการอบรมหลักคุณธรรมทั้งหกประการ ได้แก่ การอบรมหลักคุณธรรม หลักคุณสัมพันธ์ หลักการดำเนินชีวิต จิตสำนึกคุณ กฎแห่งกรรม และหลักการสร้างคุณงามความดี ซึ่งอาศัยเนื้อหาการอบรมเหล่านี้เป็นหัวใจหลักของการบรรยาย และอาศัยกิจกรรมภาคปฏิบัติมาเสริมการเรียนรู้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อโน้มนำให้สำแดงความสมบูรณ์ดีงามสูงสุดของปรีชาญาณและสัญชาตญาณ อาศัยหลักแห่งฟ้าเป็นรากฐาน หลักจริยธรรมเป็นกฎเกณฑ์ วัตถุประสงค์เพื่อสืบสานชีวิตปัญญาญาณแห่งเซียนพุทธะอริยะปราชญ์ เผยแผ่คุณวิเศษของหลักวิถีจิตแห่งสัจธรรมญาณเดิม เข้าใจกระจ่างชัดในพระธรรมของศาสดาทั้งห้า ปฏิบัติตามหลักการปกครองและจตุธรรมอันเป็นจริยธรรมโบราณ ชำระจิตใจให้ผ่องแผ้ว อาศัยสิ่งสมมติบำเพ็ญจิตญาณ ทั้งหมดนี้เป็นมหาธรรมที่นำมาซึ่งการดำรงชีวิต
    มูลนิธิแสงธรรมส่องหล้า มีความพยายามเต็มที่ต่อภารกิจจิตอาสาในการอบรมบ่มเพาะคุณธรรมให้กับผู้มีอายุตั้งแต่สามขวบถึงสี่สิบปี โดยจัดชั้นเรียนที่มีความครบพร้อมสมบูรณ์ อาทิ ชั้นท่องพระสูตร ชั้นเรียน บ่มเพาะคุณธรรม กลุ่มเยาวชนศึกษาหลักธรรม และชั้นศึกษาหลักคุณธรรมแปรตนเป็นคนใหม่ อีกทั้งยังมีกิจกรรมสันทนาการของเยาวชน โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสมานฉันท์ขึ้นในสังคมและประเทศชาติ
    เนื่องจากการเรียนในด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว ยังไม่อาจช่วยเสริมการอบรมในครอบครัวให้สมบูรณ์ได้ ชั้นเรียนและกิจกรรมของมูลนิธิจึงมีส่วนช่วยประเทศชาติในการอบรมบ่มเพาะบุคลากรให้เพียบพร้อมด้านคุณธรรมจรรยา หากทำได้เช่นนี้แล้ว โลกแห่งสันติภาพที่ท่านบรมครูขงจื่อได้เคยกล่าวไว้และดินแดนพุทธะเกษตรที่พระพุทธองค์เคยตรัสไว้ ก็จะปรากฏขึ้นจริงในที่สุด

บุคลากรครูจิตอาสา
มูลนิธิแสงธรรมส่องหล้า ประเทศไทย อ่านต่อ..